มีคำถามมาว่า ศาสดาของศาสนาไหน สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย?
ผู้เขียนขอตอบว่า ไม่มีเลย เพราะในยุคสมัยของศาสดาในทุกศาสนานั้น ยังไม่เคยมีรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยเลย
ยกตัวอย่าง ในสมัยพระพุทธเจ้า สภาพการเมืองในยุคนั้นเป็นการปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มีกษัตริย์เป็นผู้ปกครอง
โดยมีพราห์มเป็นผู้ึควบคุมตรวจสอบ และบางกรณีกษัตริย์ก็มีอำนาจดังเทวราชา ในบางถิ่นการปกครองมีลักษณะเป็นรัฐเดี่ยว แต่บางทีก็เป็นสหพันธรัฐ ไปจนถึงรัฐจักรวรรดิ
พระพุทธเจ้าทรงสอนถึงเรื่องการมีสังคมที่ดีว่าเป็นอย่างไร แต่ไม่ได้ทรงสอนว่ารัฐที่ดีต้องปกครองด้วยระบอบใด และก็ไม่ได้สอนให้พยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองอะไร
ส่วนในสมัยพระเยซู สภาพการเมืองในดินแดนปาเลสไตน์ที่พระองค์อยู่ในเวลานั้น มีลักษณะเป็นรัฐที่เป็นอาณานิคมของจักรวรรดิโรมันที่แผ่ขยายอำนาจครอบครองไปทั่วยุโรป เอเชีย และอัฟริกาตอนเหนือ ปาเลสไตน์ไม่มีเอกราชหรืออธิปไตยเป็นของตัวเอง ทางทางโรมได้ส่งผู้สำเร็จราชการชาวโรมันมาปกครอง แต่เพื่อให้ประชาชนชาวยิวยอมรับปกครองได้ง่ายขึ้น ก็เอาใจโดยการแต่งตั้งคนท้องถิ่นขึ้นเป็นกษัตริย์ให้ปกครองกันเอง แล้วทางกองทัพโรมันก็ตั้งคนท้องถิ่นให้ช่วยเก็บภาษีแบบต่างๆ เพื่อให้คอยเลี้ยงดูกองทัพโรมันที่ปกครองอยู่
ในสภาวการณ์เช่นนั้น พระเยซูก็ทรงสอนเรื่องการดำเนินชีวิตเพื่อให้เกิดแผ่นดินของพระเจ้าในโลกหรือมีสังคมที่ดีอย่างไร แต่ก็ไม่ได้ทรงบอกว่า รัฐที่ดีต้องปกครองด้วยระบอบใด และก็ไม่ได้สอนให้พยายามเปลี่ยนแปลงการปกครองอะไร
สรุปก็คือ ทั้งศาสนาพุทธและคริสต์ จึงเป็นศาสนาที่เน้นการทำให้ชีวิตส่วนตัวดี และทำให้สังคมดี แต่ไม่ได้สอนว่าทำอย่างไรให้รัฐมีรูปแบบของระบบการปกครองที่ดี ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องที่ศาสนิกชนต้องนำหลักการข้างต้นไปคิดต่อและประยุกต์ออกมาให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของยุคสมัย
ในขณะที่ศาสนาอิสลามนั้น ท่านศาสดามูฮัมหมัด จะระบุทั้งรูปแบบชีวิตส่วนตัว รูปแบบสังคม และรูปแบบของรัฐไว้อย่างค่อนข้างละเอียด ครอบคลุมทุกเรื่อง และมีความตายตัว จึงพูดได้ว่า ศาสนาอิสลามระบุเรื่องรูปแบบระบอบการปกครองของรัฐไว้ชัดเจน รูปแบบดังกล่าวมีลักษณะที่เรียกว่า "เทวาธิปไตย" คือให้พระอัลเลาะห์และหลักกฎหมายศาสนา เป็นผู้ปกครองโดยตรง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นลักษณะของประชาธิปไตยแต่อย่างใด
ขอตอบคร่าวๆ แค่นี้ แต่ก่อนจะจบ ก็ขอบอกว่า เจ้าตัว "ประชาธิปไตย" เองก็ถูกหลายคนมองว่าเป็น "ศาสนา" ชนิดหนึ่งเช่นกัน และผู้คนไม่น้อยก็บูชามันดังเป็นศาสนาจริงๆ
ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น