วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ล้อเลียนศาสนา?

มีหลายท่านถามผู้เขียนมาว่า คิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเพจล้อเลียนศาสนา?


ผู้เขียนคิดเห็นว่าอย่างนี้ว่า ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบเนื้อหาก็ตาม แต่สังคมควรมีค่านิยมที่ยอมรับและสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในความเชื่อ (free thinking) และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (free speech) และไม่ถือว่าการวิจารณ์ความคิดความเชื่อหรือศาสนาเป็นเรื่องผิดในกรณีที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังกัน (hate speech) เว้นเสียแต่จะไม่มีหรือไม่เคยมีเหตุผลประกอบ และมีการแสดงความอาฆาตมาดร้าย



หากสังคมขาดเสรีภาพตรงนี้เสียแล้ว ศาสนาจะสร้างความเสียหายต่อสังคมมากอย่างคาดไม่ถึง

และผู้เขียนไม่ยอมรับเรื่องการมีกฏหมาย "หมิ่นศาสนา" (blasphemy) อย่างเด็ดขาด

หรือถ้าทำใจไม่ได้จริงๆ ก็ให้ต่อว่ากลับไปแรงๆก็ได้ ซึ่งก็ยังดีกว่าใช้กฎหมายหมิ่นศาสนาหรือการไม่ให้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

บางคนอาจบอกว่า ถ้าจะวิจารณ์หรือล้อเลียนก็น่าจะเปิดเผยตัว อันนีก็อาจต้องบอกว่า จากที่เคยคุยกับหลายคนที่ทำเวบหรือเพจหรือแม้แต่หนังสือแนวนี้ เขาบอกว่าเขาห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือกลัวจะถูกกลั่นแกล้งในทางใดทางหนึ่ง จึงจำเป็นต้องปิดบัง

ซึ่งเมื่อดูจากในสังคมของเราแล้ว ผู้เขียนคิดว่าฟังได้ระดับหนึ่งทีเดียว



นอกจากนี้ ผู้เขียนคิดว่า หากศาสนิกกล้าที่จะวิพากษ์ตัวเองหรือวิพากษ์กันเองอย่างตรงไปตรงมาแทนที่จะรอให้คนอื่นเขาวิจารณ์ เรื่องนี้ก็ย่อมจะน้อยลงไปเองเป็นธรรมดา

อีกประการหนึ่งคือ ศาสนิกอาจลองมองแง่ดี คือ อาจเอาประเด็นที่ถูกวิจารณ์หรือแม้แต่ล้อเลียนมาไตร่ตรองเสมือนเป็นข้อทดสอบตนเองว่า ถ้ามันไม่จริงหรือไม่ยุติธรรม เราจะตอบกลับอย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือได้อย่างไร จนคนวิจารณ์เขายอมรับและเลิกวิจารณ์หรือล้อเลียนไปเอง นี่ถือเป็นการฝึกสมองและพัฒนาความรู้ของตัวเราเองไปด้วย

หรือหากเราตอบอย่างมีน้ำหนักน่าเชื่อถืออย่างเต็มที่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่เลิกวิจารณ์หรือล้อเลียนอย่างผิดๆ ก็ให้ถือว่าเป็นการฝึกความอดทน การบำเพ็ญเพียร ซึ่งในทางศาสนาก็จะทำให้บังเกิดเป็นผลดีฝ่ายจิตวิญญาณหรือแม้แต่ได้เป็นพรหรือบุญตามมา

และประการสุดท้าย หากที่เขาวิจารณ์มาเกิดเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ศาสนิกก็ควรต้องยอมรับ ซึ่งก็เป็นการฝึกยอมรับความจริง ฝึกที่จะถ่อมตัวถ่อมใจ มีน้ำใจนักกีฬา

ทั้งยังจะได้คิดว่า จะนำคำวิจารณ์มาแก้ไขจุดอ่อนในศาสนาของตนได้อย่างไร เขาจะได้ไม่ว่าเอาได้เรื่อยๆ

ผู้เขียนขอตอบคำถามนี้ โดยเชื่อและยึดหลักการอย่างนี้จริงๆ



ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น