วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สมาธิแบบคริสต์


คุณพ่อลอเรนส์ ฟรีแมน (Fr.Laurence Freeman, OSB) นักบวชคณะเบเนดิกติน เป็นผู้อำนวยการของสถาบัน The World Community for Christian Meditation (WCCM) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นศูนย์นานาชาติของการนั่งสมาธิแบบคริสต์ที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1991 และได้เผยแพร่การนั่งสมาธิแบบคริสต์ไปทั่วโลกกว่า 100 ประเทศแล้วในปัจจุบัน

ปัจจัยที่สำคัญของการนั่งสมาธิ ภาวนาคือ ความเงียบ การเข้าสู่ความสันติที่เต็มเปี่ยมด้วยความยินดี ละวางความเศร้าโศก ความโกรธ ความกลัว สิ่งรบกวนภายนอก เคลื่อนสู่ความสงบสันติอย่างรู้ตัว เป็นการปฏิบัติอย่างง่ายๆ เพื่อพบกับพระเยซูเจ้า โดยใช้มันตราคำสั้นๆ เช่น "มา-รา-นา-ธา" เป็นคำท่องซ้ำๆ ช้าๆ เข้ากับจังหวะการหายใจเข้าออก เพื่อช่วยให้เรามีสมาธิได้ต่อเนื่อง คำนี้เป็นภาษาอาราเมอิก มีความหมายว่า "โปรดเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า โปรดเสด็จมาพระเยซูเจ้า" ผลจากการทำสมาธินี้เสมอๆ ทำให้เราสนิทกับพระเจ้ามีคำตอบในชีวิต ความสงบทำให้เรารู้จักทั้งตัวเราเองและพระเจ้า รู้ว่าความรุนแรง นำมาซึ่งบาป และเราจะหลุดพ้นจากมันได้อย่างไร


ท่านได้ย้ำเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของชีวิตฝ่ายจิต การทำสมาธิภาวนาเป็นฐานแห่งความสงบสุขการได้แลกเปลี่ยนแบ่งปันความเข้าใจของทั้งสามศาสนา แต่ไม่เป็นอุปสรรคที่จะนำพาสู่ความสันติของผู้เข้าใจในแก่นของศาสนาอย่างแท้จริง

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของสถาบันการนั่งสมาธินานาชาติ www.wccm.org

ขอขอบคุณเรื่องราวจาก http://www.agalico.com/board/archive/index.php/t-8257.html สมาธิแบบคริสต์

12 ความคิดเห็น:

  1. จริง ๆ แล้วคริสเตียนไม่มีการนั่งสมาธิ ดังนั้น เรื่องการนั่งสมาธิแบบคริสต์ จึงเป็นหัวข้อที่ไม่มีในชีวิตคริสเตียน เพราะการเข้าสนิทกับพระเจ้าได้นั้นไม่ใช่ด้วยวิธีการของเรา แต่เป็นวิธีการของพระเจ้าต่างหาก เราเป็นคนบาปไม่สามารถเข้าใกล้พระเจ้าได้ด้วยวิธีที่เรากำหนดเอง แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้กำหนดวิธีเข้าใกล้ชิดกับพระองค์ คือ โดยความเชื่อในพระนามของพระเยซู และโดยการไว้วางใจในพระโลหิตไถ่ของพระองค์บนไม้กางเขน และโดยการอ่าน คิด ใคร่ครวญ พระคริสตธรรมคัมภีร์ เราก็สามารถเข้าใกล้ชิดพระเจ้าได้ และเราเข้าใกล้พระเจ้า เหมือนลูกนั่งบนตักของพ่อ พระเจ้าเป็นพ่อที่ดีของมนุษย์ทุกคน และพร้อมจะฟังเสียงร้องทูลของเรา ทุกๆเรื่องและพร้อมที่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเรา ตลอดเวลา และตลอดไป

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2551 เวลา 07:51

    เห็นด้วยกับความคิดของคุณ Chanเป็นอย่างยิ่ง การนำเรื่องนั่งสมาธิแบบพุทธมารวมกับเรื่องราวของคริสเตียนเป็นความคิดที่ไม่ถูกเลย ผมไม่ได้ต้านความคิดว่าเราควรสงบใคร่ครวญเพื่อเกิดปัญญา แต่คริสเตียนเรามีสิ่งที่ดีกว่านั้นนั่นคือการอธิษฐาน การขอปัญญาจากพระเจ้าและเราจะสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นจากพระองค์ จากนั้นสันติสุขซึ่งเกินความเข้าใจจะเข้ามาในชีวิต ชีวิตแบบนี้การนั่งสมาธิไม่สามารถให้คำตอบได้เลย

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ2 ธันวาคม 2551 เวลา 07:53

    นี่เป็นคำสอนผิดมากๆ

    ตอบลบ
  4. คริสต์มีการทำสมาธิมานานแล้วนะครับ ตั้งแต่สมัยของนักบุญเบเนดิกต์ โดยเน้นการทำสมาธิเพื่อเข้าถึงพระเจ้า ที่ คคห. ด้านบนที่บอกว่าผิดนี่คงเป็นมุมมองของโปรแตสแต้นท์ ก็ขอให้ท่านร้องเพลงที่แต่งแย่ๆ ดนตรีห่วยๆ ในห้องตึกแถวซอมซ่อ พร้อมทั้งควัก 10% เพื่อจ่ายสิ่งดังกล่าวของท่านต่อไป

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ20 ตุลาคม 2553 เวลา 06:44

    การใช้หัวใจของเราในการภาวนากับพระเจ้า อย่างสงบ พบกับพระองค์ด้วยความนอบน้อม ซื่อ ่ๆ ง่ายๆ ไม่วกวน แล้วเงียบ เพื่อฟังเสียงพระองค์บ้าง หม่ันภาวนากับพระองค์บ่อยๆ อย่างพากเพียร ด้วยความรัก ปราศจักอคติใด เต็มไปด้วยความเชื่อและความศรัทธา ผู้ที่ปฏิบัติดังนี้อย่างสม่ำ่เสมอ จะได้พบกับพระองค์อย่างแท้จริง นี่คือวิธีที่พระองค์ได้ทรงบอกเราโดยผ่านทางท่านนักบุญเทเรซา แห่งอาวีลา

    ตอบลบ
  6. การทำสมาธิแบบคริสต์ คือการภาวนาถึงพระเจ้า เพื่อได้ฟังเสียงของพระองค์บ้าง ไม่ใช่ใช้วิธีรู้สติแล้วเกิดปัญญา ไม่ใช่นั่งหรือเดินจงกรม แต่เป็นการพบกับพระองค์ด้วยจิต่ใจที่สงบ ที่อยู่ก้นบึ้งของหัว่ใจด้วยความรักและความศรัทธา พร้อมที่จะทำตามนำ้พระทัยของพระองค์ ด้วยความนบนอบ

    ตอบลบ
  7. การทำสมาธิมีแต่ในศาสนาทางตะวันออก คือพราหมณ์และพุทธเท่าที่ทราบ และมีมาก่อนคริสต์ด้วย ศาสนาทางตะวันตกไม่มี มันเป็นการสอดแทรกเนื้อหา โดยการพยายามกลืนศาสนา ทั้งการใช้คำทางพุทธปะปนกับคริสต์อีก หวังว่าชาวคริสต์จะจำได้ว่าเคยก่อความเดือดร้อนให้ใครไว้บ้างนะ การอ้างแต่พระเจ้าสร้างความเดือดร้อนให้กับโลกนี้มากน้อยแค่ไหนก็ดูเอาละกันประวัติศาสตร์มีให้ศึกษากันอยู่่ แต่ไม่แน่มันอาจถูกลบออกไปก็ได้ ในอนาคต

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ7 ธันวาคม 2554 เวลา 23:09

    ไม่ใช่วิธีการที่พระเยซูเคยทำ พระองค์เคยกล่าวไว้เรื่องการประพฤติ ว่าอย่าหลงตามหลักปรัชญา คำสอนท่านรับไว้ได้ แต่การประพฤติอย่าทำอย่างเขาเลย

    ตอบลบ
  9. ศาสนาคริสต์ มีครับ แต่เรียก Meditation ว่า การรำพึงเพ่งพิศ ไปศึกษาเพิ่มเติมกันนะ จะได้รู้จักประวัติศาสตร์และเข้าใจชีวิตมุมอื่นของโลกบ้าง การทำสมาธิ ไม่ใช่ศาสนากิจ จะห้ามคนที่ไม่ใช่พุทธทำสมาธิก็ควรไปจดสิทธิบัตรกันไว้นะครับ ถ้ามันเป็นสิ่งดี แต่ไม่อยากให้คนอื่นเอาไปปฏฺิบัติ ก็ไม่ใช่ความคิดประเสริฐเท่าไรนะครับ

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ16 สิงหาคม 2556 เวลา 21:08

    ทำไมชาวคริสกับอิสลามไม่ค่อย ส่งเสริมเรื่องสมาธิกันนัก หรือเพราะมันไม่ค่อยเกี่ยวกับการเมือง หรือกลัวคนจะเบื่อโลกเบื่อกามแล้วไม่ค่อยแพร่พันธุ์ หรือให้เอาเวลาไปเผยแพร่ศาสนาดีกว่าคนจะได้นับถือกันเยอะๆ ดีกว่าไปทำสมาธิหาความสันโดษ เพราะมันไม่เป็นประโยชน์ต่อการขยายอิทธิพลของศาสนาเลย

    ตอบลบ
  11. พวกโลกแบน มโนไปเรื่อยย

    ตอบลบ