วันพุธที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2555

โบสถ์สอนเท็จอันใหม่เมดอินเกาหลี เชื่อในพระเจ้าพระมารดา

คลิกดูภาพใหญ่
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าที่ว่า "สอนเท็จ" ในที่นี้หมายถึงตามบรรทัดฐานของคริสตชนกระแสหลัก     โบสถ์หรือคริสตจักรที่ว่านี้ชื่อในภาษาอังกฤษคือ "The World Mission Society Church of God" แปลเป็นไทยได้ว่า "คริสตจักรสมาคมมิชชั่นโลก ของพระเจ้า"

ตามประวัติจากเวบไซท์ของเขาคือ http://english.watv.org บอกว่า ตั้งมาตั้งแต่ปี 1948 ก่อตั้งโดย พระคริสต์ที่เสด็จกลับมาครั้งที่สอง ซึ่งเป็นชายเกาหลีที่ชื่อว่า Ahnsahnghong (น่าจะอ่านว่า อันซังฮง) พวกเขาถึงกับเรียกชายผู้นี้ว่า "พระคริสต์อันซังฮง" เลยทีเดียว เขาว่าพระคริสต์เกาหลีผู้นี้มาถึงเกาหลีในปี 1948 ซึ่งที่พระคริสต์มาที่เกาหลีเพราะเกาหลีตั้งอยู่ที่ "สุดปลายแผ่นดินโลกทางตะวันออก" ซึ่งตรงกับคำทำนายเรื่องต้นมะเดื่อ เมื่อมาถึงก็เริ่มประกาศ

ชายที่เรียกตนว่า "พระคริสต์อันซังฮง" 

ข้อมูลบอกอีกว่า ทุกวันนี้เขามีสมาชิก 1.7 ล้านคนในคริสตจักรของเขาที่มีอยู่ราว 2,200 แห่งกระจายอยู่ใน 150 ประเทศทั่วโลก โดยใช้เวลาเพียงครึ่งศตวรรษ

เกี่ยวกับหลักคำสอนของพวกเขานั้น พวกเขาก็ยึดถือพระคัมภีร์ แต่ตีความแตกต่างจากคริสตชนกระแสหลักในหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องหลักๆก็คือ พวกเขาถือว่า พระเจ้าไม่ได้เป็นพระบิดาอย่างเดียว แต่พระเจ้าเป็น "พระมารดา" ด้วย และเขามีข้อพระคัมภีร์มาอธิบายแบบตีความได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว โดยเน้นว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระองค์ และเมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง ฉะนั้นก็ต้องแปลว่า พระเจ้าทรงมีด้านที่เป็นชายและหญิงด้วย นั่นคือถ้าพระองค์เป็นพระบิดา พระองค์ก็ต้องเป็น "พระมารดา" ด้วย

สรุปคือเชื่อในตรีเอกานุภาพแห่งพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระมารดา พระเจ้าพระบุตร เชื่อว่าพระเจ้าพระมารดาคือพระผู้สร้างสรรพสิ่งพร้อมพระเจ้าพระบิดา

และพวกเขาบอกว่า "กรุงเยรูซาเล็มเบื้องบน" นี่แหละคือ "พระมารดา" โดยยกข้อพระคัมภีร์กาลาเทียบทที่ 4 ข้อ 26 ที่ว่า "แต่​ว่า​เยรูซาเล็ม​ซึ่ง​อยู่​เบื้อง​บน​นั้น เป็น​ไท​เป็น​มารดา​ของ​เรา​ทั้ง​หลาย"
      
ศจ. คิม จู โชล  ศิษยาภิบาลคนปัจจุบัน

พวกเขายืนยันชัดเจนว่ายึดถือพระคัมภีร์บรรทัดฐาน 66 เล่ม
เช่นคริสตชนกระแสหลัก

นอกจากนั้น เกี่ยวกับเรื่องการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสต์ พวกเขาก็สอนว่า การมาของ "พระคริสต์อันซังฮง" ในปี 1948 นี่แหละคือการเสด็จกลับมาตามคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์อย่างสมบูรณ์แล้ว

การนมัสการต้องใช้วันสะบาโตก็คือวันเสาร์เท่านั้น ไม่ใช่วันอาทิตย์    และยังต้องฉลองเทศกาลทั้งเจ็ดเทศกาลในพระคัมภีร์เดิม สามครั้ง

นอกจากนี้ สตรีต้องใส่ผ้าคลุมเวลานมัสการและอธิษฐานและไม่มีการฉลองวันอีสเตอร์ เพราะเชื่อว่าการฉลองวันอีสเตอร์คือการบูชาพระนอกรีต

โบสถ์นี้ได้รับความนิยมมากเพราะกิจกรรมต่างๆ ดึงดูดผู้คนมาก  รูปแบบมักจะหรูหราเฟิร์สคลาส  และยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวทำความสะอาดท้องถนน   การบริจาคสิ่งของช่วยเหลือ   ไปจนถึงการบริจาคโลหิต

กิจกรรมสังคมที่มีการบริจาคสิ่งของมากมาย
ช่วยทำความสะอาด และการบริจาคโลหิต

โบสถ์นี้เริ่มเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยแล้ว มีการทำสื่อคลิปวีดีโอเผยแพร่ในยูทูปด้วย




สวัสดี

ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์

(นำเสนอตามการขอมา)

37 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าว่าตามนี้ ถ้าตัดเรื่องพระมารดาออกไป หลายๆ ข้อเขาสอนดีกว่า ศาสนาคริสต์ตามวัฒนธรรมโรมันในไทยอีกแน่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ31 ธันวาคม 2566 เวลา 23:32

      มีพระมารดาอย่างจริงตามพระคัมภีร์

      ลบ
  2. เจ้าลัทธิตั้งตัวเป้นพระเยซุกลับมาเกิดนี่เรียกสอนดีเหรอครับ

    ตอบลบ
  3. มนุษย์เรา ไม่ว่าลัทธิไหน ก็มีสิทธิ์สอนผิดด้วยกันทั้งนั้น
    เลิกคิดว่าเราดีกว่าใคร นั่นแหละ สันติ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:27

      เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ- เขาเชื่อแบบนั้น มันก็เป็นความเชื่อของเขา, เราเชื่อแบบนี่ มันก็เป็นความเชื่อของเรา ส่วนการที่ว่า คนอื่นไม้ดี คนอื่นเท็จ นั้นแหละคนไม่ลี 555

      ลบ
  4. ทำไม พระเยซู ไม่พูดถึง พระเจ้าพระมารดา หรือ อธิษฐานในนามพระเจ้าพระมารดา..

    ทำไม พระเยซู ต้องปกปิด เรื่อง พระเจ้าพระมารดา หรือ พระเจ้าพระมารดาไม่สำคัญ..

    พระเจ้าสร้าง หญิง มาจาก ชาย..



    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เอวา พระเจ้าสร้าวหลัง อาดัม และให้อาดัมหลับ(ตาย) สร้าวเอวา เรื่องนี้เป็นคำพยากร เอวาคนสุดท้าย พระบิดาเสด็จมาก่อน ตามแผนงานการช่วยให้รอด แต่ วันแทนพันปี เอวาพระเจ้าสร้างจากอาดัม นั่นหมายถึง พระบิดา เมื่อเสร็จภารกิจการช่วยให้รอด จะสถาปนาพระมารดา ในวาระสุดท้าย ซึ่งพระบิดา ตรัสถึง 4 ครั้ง ว่าเราจะฟื้นขึ้นมาในวันสุดท้าย ในหนังสือยอห์น บทที่ 6....

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2557 เวลา 12:00

      คนที่รักพระเจ้านะ หายาก ถ้าอยากรู้ความจิงก่ควรจะคูที่ต้นสบับนะครับ ว่า สพาบของพระเจัามีกิ่แบบ(elohim)

      ลบ
    3. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:37

      เห็นแค่พ่อ - ลูก ไปตลาด แล้วคนในตลาดก็คิดว่า ที่บ้านนั้น ลูกเกิดมาจากพ่อเท่านั้น โดยไม่มีแม่
      ความคิดนี้ = ปรกติ หรือ ไม่ปรกติ 555

      ลบ
  5. จะให้ดีที่สุดต้องหาคำตอบจากรากภาษาเดิม คือ ฮีบรู
    หรือ ต้องตีความพระคัมภีร์ในกรอบความคิดของคนฮีบรูครับ (ไม่ใช่เกาหลี)
    หรือแม้แต่ภาษาไทย ก็แปลมาจากภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษาฮีบรู
    ดังนั้น กรอบความคิด หรือ การตีความบางอย่างจึงเพี้ยนไปจากเดิม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:41

      เห็นด้วยครับ ต้องตีความตามภาษา อีบรู
      ในภาษาฮีบรู พระเจ้า ออกเสียงว่า เอโลฮิม(Elohim) ตีความได้อย่างไรครับ ตีความคำนี้ให้ด้วยครับ

      ลบ
  6. ให้ศึกษาข้อมูลตามความจริง และประวัตศาสตร์ พระคัมภีร์ ถ้าเข้าใจคำพยากรแล้ว ก็จะรู้ว่า พระบิดาเสด็จมาแล้ว เหตการณ์นี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2000 ปีก่อน พวกฟาริสี และผู้นำศาสนา ก็ไม่เชื่อว่า พระเยซู เป็นพระเจ้า และได้ทำร้ายพระองค์ ปัจจุบันก็เหมือนกัน ผู้นำศาสนาก็ไม่ยอมรับการเสด็จมาในสภาพมนุษย์ ของพระบิดาและทำเช่นเดียวกับเมื่อ 2000ปีก่อน ....ผมเชื่อคำพยากร เชื่อพระคัมภีร์ไบเบิล เชื่อในพระเจ้าเอลโลฮิม.....

    ตอบลบ
  7. ให้ศึกษาข้อมูลตามความจริง และประวัตศาสตร์ พระคัมภีร์ ถ้าเข้าใจคำพยากรแล้ว ก็จะรู้ว่า พระบิดาเสด็จมาแล้ว เหตการณ์นี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2000 ปีก่อน พวกฟาริสี และผู้นำศาสนา ก็ไม่เชื่อว่า พระเยซู เป็นพระเจ้า และได้ทำร้ายพระองค์ ปัจจุบันก็เหมือนกัน ผู้นำศาสนาก็ไม่ยอมรับการเสด็จมาในสภาพมนุษย์ ของพระบิดาและทำเช่นเดียวกับเมื่อ 2000ปีก่อน ....ผมเชื่อคำพยากร เชื่อพระคัมภีร์ไบเบิล เชื่อในพระเจ้าเอลโลฮิม.....

    ตอบลบ
  8. In the first time he came as a shepherd.
    In the Second time he will comes as the King and Judge.


    Not ahn sang Hong. He is fake he is not a king but just a fool man

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ8 พฤษภาคม 2557 เวลา 12:18

      Nobody could understand if those ones were not children of promise becuase the children could not born if they were without mothe, the naturals were not teach us? or try to forget it or never read by ourself about Bible?

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 20:08

      1 CORINTHIANS 1
      20Where is the wise person? Where is the teacher of the law? Where is the philosopher of this age? Has not God made foolish the wisdom of the world? 21For since in the wisdom of God the world through its wisdom did not know him, God was pleased through the foolishness of what was preached to save those who believe

      God was pleased through the foolishness of what was preached to save those who believe

      Which side are you on?

      ลบ
  9. ถ้าเชื่อตามพระคริสตธรรมคัมภีร์เหมือนกัน..พระเจ้ากลับมาอีกครั้งเพื่อพิพากษาครับ อย่างปัจจุบันนี้ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย นี่มันเพี้ยนกันไปใหญ่แล้ว ทำอะไรก็ต้องรับผิดกับพระเจ้าด้วยนะครับผม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:46

      ในข้อใดครับ 555 / ไม่รู้นะจึงถาม

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ31 ธันวาคม 2566 เวลา 23:34

      ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพระองค์จะไม่กลับมา

      ลบ
  10. อยากรู้เรื่องมากกว่านี้ครับ จิ๊บสุริยน 0898359765

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ7 พฤษภาคม 2557 เวลา 12:24

    ความรอดย่อมขึ้นอยู่กับผู้ที่เปิดใจรับฟัง

    ตอบลบ
  12. 1. เทคนิคที่ลัทธินี้ใช้ไม่ต่างอะไรกับพวกแอนตี้ไครสทำ ยกพระคำภีร์มาข้อเดียวไม่เอาทั้งบริบท หรือไม่ก็ตัดต่อมาบางตอนแล้วเรียบเรียงใหม่
    2. การเสด็จกลับมาของพระเยซูครั้งที่ 2 จะมาบนท้องฟ้าพร้อมเสียงแตร และคนทั้งโลกจะต้องเห็นพร้อมกัน
    3. คำว่า "เจ้าสาวของพระเมสโปดก" คือผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ จาก2โครินธ์ 11:2
    4. คำว่า "มเหสีของพระเมสโปดก" คือแผ่นดินสวรรค์ ซึ่งต้องอ่านบริบทในพระธรรมวิวรณ์ตอนนั้นให้ครบถ้วน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:49

      อ่านครบถ้วนแล้วหรือครับ ใน วว นะ

      ลบ
  13. ทำไมพระเยซูถึงกลับมาที่เกาหลี
    เมื่อดูจากประวัตฺศาสตร์ขั้นพื้นฐานแล้ว มีเหตุผลซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคำทำนายเลยดังนี้
    1. การที่มีนายพลคนหนึ่งไปได้สายดำคาราเต้จากญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเอามาแปลงเป็นเทควันโด้ แล้วบอกว่าเกาหลีคิดเอง
    2.การเปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็นกรุงโซล เพื่อปิดบังประวัติศาสตร์การไปก๊อบปี้พระราชวังต้องห้ามของจีนมาทั้งหมด แล้วบอกใหม่ว่าเกาหลีคิดเอง
    3. จากเอเชียนเกมส์ที่ผ่านมา ทุกคนก็รู้ว่าเกาหลีขี้โกงยังไง
    เพราะประเทศเกาหลีอยากเป็นที่1 ในโลกอะไรดีๆที่มีบนโลก ต้องเกิดที่เกาหลีด้วย แล้วต้องเป็นต้นแบบของชาวบ้าน ทั้งที่ตัวเองสักยภาพไม่ถึง การอยากเป็นที่1 ของเกาหลีนั้น จะไม่สนใจวิธีการและความถูกต้อง และทำได้ทุกอย่าง

    ตอบลบ
  14. พระเจ้าสร้างเราตามพระฉายาของพระเจ้า พระองค์ได้สร้างชาย และเมื่อเห็นว่าชาย และในอยู่ในสวนเอเดนสักพัก แล้วเมื่อพระเจ้ามอบหมายงานต่างๆให้ทำแล้วและมอบคำสั่งต่างๆ และให้เขาตั้งชื่อสัตว์ป่า และเชื่อว่ากินเวลาไปพอประมาณเลย กว่าที่พระเจ้าจะสร้างผู้หญิงขึ้นมา และพระองค์ก็ได้ทำให้ชายท่ีพระองค์สร้างนั้นหลับสนิท แล้วค่อยถอดกระดูดซี่โครงออกมา เพื่อสร้างเป็นหญิง ปฐมกาล 2:5-23 เพราะ หญิงออกมาจากชายและเป็นส่วนหนึ่งของชาย และชายก็มาจากหญิง คิดว่านั้นคือช่วงเริ่มต้นที่พระเจ้าเริ่มวางระบบ ธรรมชาติของการมีคู่และการสืบพันธุ์ของมนุษย์ คือระบบครอบครัวและการแพ่พันธุ์ เพราะปกติพระเจ้าวางทุกอย่างไว้ให้มีระบบตามชนิดของมันอยู่แล้ว ฉะนั้น การที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ตามพระฉายาของพระเจ้า นั้น คือ เรื่องของความดี ความชอบธรรม สติปัญญา เรื่องของจิตวิญญาณคะ ไม่ใช่เรื่องนั้นว่าพระเจ้าเป็นพระมารดาหรือเปล่า แต่จริงๆเราจะกำหนดพระเจ้าไม่ได้ด้วย เพราะว่าพระองค์ทรงไม่กำจัด จะเป็นมาแบบชาย หรือแบบหญิงพระองค์ก็เป็นได้ทั้งนั้นใครจะขวางพระองค์เล่า ฉะนั้นอย่าหลงในรายละเอียดตามปัญญาของมนุษย์เลย เพราะจะทำให้ท่านเพิ่มความลำบากให้ตัวเอง ส่วน ข้อพระคำกาลาเทียนั้นบทที่ 5:27 นั้น เปาได้เปรียบเทียบให้ชาวกาลาเทียไม่หันไปพึ่งพากฎบัญญัติเพื่อที่จะได้ความรอด เท่านั้น เปาโลแค่กำลังอธิบายว่า ถ้าจะเอากฎบัญญัติเป็นตัวช่วยให้ไปถึงพระเจ้าแล้ว เขาทั้งหลายก็เทากับทาส นั้นจึงเป็นเหตุให้เปาโล ต้องยกตัวอย่าง จาก เรื่อง ฮากาและซาราห์มาอธิบาย เพื่อให้เขาเห็นภาพว่า ลูกตามพันธสัญญาคือลูกของซาราห์ ซึ่งเป็นเมียที่ถูกต้องของอับราฮัมและเป็นเมียที่พระเจ้าจะให้เกิดลูกตามพระสัญญา สืบเนื่องมาถึงความเชื่อในพระเยซู ก็เลยทำให้พวกเชื่อในพระมารดาเข้าใจผิดว่า มีพระมารดาจริงๆ เพราะตีความพระคัมภีร์ผิด ไม่รู้จุดประสงค์ที่เปาโลกำลังสื่อด้วย เขาสื่อว่า ฮากาเป็นทาส ฉะนั้นจึงไม่ควรตามกฎบัญญัติเพราะนั้นคือทาส เขาก็เลย พูดถึงความเป็นทาสของฮากาเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามความเชื่อของคริสเตียนคือ พ้นจากความเป็นทาสเพราะพระเยซูที่เป็นพันธสัญญาของพระเจ้า เปาโลจึงพูดว่า คือมารดาของเราทั้งหลาย (เขากล่าวถึงซาราห์ ที่เป็นหมันและเป็นไท) ได้โปรด อ่านพระคัมภีร์ให้เข้าใจในบริบททั้งหมดด้วยนะคะ อย่าชักชวนคนเป็นอันมากให้หลงไปอยู่ในความลำบากและความเชื่อที่ผิดแปลกไป เชื่อในตรีเอกานุภาพก็ดีแล้ว เพียงพอแล้ว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. พูดผิดคะ กาลาเทีย4:26 นะคะไม่ใช่ 5:27

      ลบ
  15. สงสัยอะไรถามพระเจ้าสิครับ...พระองค์เป็นคำตอบ...การเสด็จมาของพระองค์ก็มีบันทึกไว้ก่อนแล้วว่ามาแบบไหน..คนที่อ้างว่าเป็นนั้นมาอย่างไร? ตายไปแล้วหรือยัง มั่วมาก...

    ตอบลบ
  16. พอดีเปนคนพุทธ ครับ เชื่อว่า พระคริสต์นั้นก็คือพระนิพพาน ซึ่งเป็นดวงจิตบริสุทธิ์นิรันดร์ ทรงใช้ร่างกายเนื้อมนุษย์(พระโพธิสัตว์) มาเพื่อประกาศทางรอดและความดี ดูแล้วเหมือนจะไปแนวเดียวกันคือเข้าใจว่า โลกของพระเจ้าน่าจะหมายเอาแดนนิพพานของพระพุทธองค์
    หากท่านกำลังวางใจในพระเจ้าก็เหมือนกับกำลังดำเนินสู่ลู่ทางแห่งแดนนิพพานแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายในคราวเดียวกันนั้นแล จงอย่าให้มารทั้งหลายมีโอกาสแบ่งแยกสันติสุขไปจากพวกเรา Amenสาธุ ครับ

    ตอบลบ
  17. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2562 เวลา 00:35

    แล้วแต่ความเชื่อของบุคคลตามพระคัมภีร์ ผิดก็ควรมีข้อโต้แย้งที่ชัดเจนชี้เหตุและผล ไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:55

      ถูกครับ อย่ารีบว่าเข้าผิด และ อย่ารีบว่าเราถูก ควรชี้ด้วยเหตุ และ ผล. คนที่ไม่ใช้เหตุผล+ข้อพระคัมภีร์อ้างอิง ว่าคนอื่นผิด ก็เท่ากับเป็นเพียงอารมส่วนตัวของคนนั้น เท่านั้นเอง (^_^)

      ลบ
  18. เราอยู่คริสตจักรนี้ในเกาหลี อิงตามคัมภีร์ นมัสการวันเสาร์ สามครั้ง ตอนนี้มีราวๆ2ล้านคนในเกาหลี ที่อยู่คริสตจักรของพระเจ้า เราเข้าที่นี่เพราะ เราไม่นับถือรูปปั้นหรือไม้กางเขน และคริสตจักรมีแต่เพียงของพระเจ้าทั้งนั้นไม่ใช่ชื่อนักบุญ เราว่าเขาสอนดีและแต่ละคนก็ประพฤติตามคัมภีร์เป็นหลักจริงๆ ส่วนเรื่องอันซังโฮง คือเขาเกิดในช่วงที่สถาปนาประเทศอิสราเอล และรับบัพติสมาในอายุ30 เช่นเดียวกับพระเยซู รวมทั้งกล่าวให้คนรักษาบัญญัติต่างๆ ที่บุคคลลืมเลือน เราคิดว่าไม่มีใครเท็จหรือไม่มีใครจริงไปทั้งหมด สุดท้ายแล้ว แล้วแต่ประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 20:02

      เหตุผลนี้ เห็นด้วยครับ
      อย่าไปว่าเขาผิด และ อย่าไปว่าเราถูก
      เพราะความเชื่อ แค่ละคนมีสิทธิ์เลือก ชอบอันไหนก็เชื่ออันนั้น
      ถ้าหากคิดว่าสิ่งที่ตนเชื่อนั้นดีแล้ว ก็จงประกาศสิ่งนั้น ไม่ใช่ตู่หาว่าคนนั้นผิด คนนี้เท็จ. ส่วนคนที่คิดว่าคนอื่นเท็จ ก็ออกมาจากจิตใจที่รุกรานคนอื่น หรือว่าไม่จริง...

      ลบ
  19. ไม่ระบุชื่อ16 กันยายน 2565 เวลา 19:05

    จะไม่เพิ่มเติมหรือตัดออกตามคำเตือนในว.ว.

    ตอบลบ
  20. ไม่ระบุชื่อ24 กรกฎาคม 2566 เวลา 21:07

    เท็จ หรือไม่เท็จ ตัดสินจากอะไร. เอาอะไรเป็นบรรทัดฐาน เอาแค่สิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้มา ที่เรียกกันว่า ความรู้สูงนั้นเหรอ?
    สิ่งที่มีในโลกนี้รู้หมดแล้วหรือยัง?
    แล้วความรู้ทังหมดในพระคัมภีร์ไบเบิล รู้หมดแล้วหรือยัง?
    การที่ว่าคนนั้นเท็จ คนนี้ปลอม ก็เพียงแค่ใช้สิ่งที่ตนรู้มาเท่านั้นใช่ไมครับ?
    ไม้ได้ออกมาจากจิตใจที่รุกรานคนอื่นแน่เหรอ?
    แค่ถามนะครับ

    ส่วนตัวคิดว่า เท็จหรือไม่ มันเป้นแค่การกล่าวหา พอใจที่จะเชื่ออันไหนก็เชื่ออันนั้น. ไม่ไปรุกรานใคร, ไม่ไปกล่าวหาใคร, ขอเพียงแค่เชื่อแล้วไม่ไปทำสิ่งที่เรวร้ายให้คนอื่นรอบข้าง ก็ถือว่าดีแล้ว. หรือความคิดเห็นนี้ผิด แย้งมาสิ จะรออ่าน

    ตอบลบ