วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คำว่า "ศาสนาผี" เป็นคำเรียกเชิงดูถูกของศาสนาไทยยุคหลัง


ที่จริงแล้วศาสนาที่คนไทยเรียกติดปากว่า "ศาสนาผี" ในทางศาสนวิทยาก็คือ "animism" หรือเรียกว่า "ศาสนาประเภทวิญญาณนิยม" โดยลักษณะก็คือ เป็นศาสนาที่นับถือธรรมชาติต่างๆว่ามีวิญญาณบางอย่างควบคุมอยู่ทั้งนั้น โดยนามก็เรียกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น
เพียงแต่คนไทยโบราณมักเรียกวิญญาณต่างๆว่า "ผี" ซึงก็ใช้คำนี้เรียกรวมไปถึงวิญญาณบรรพบุรุษที่ตายไป เช่น ผีพ่อผีแม่ ผีปู่ย่า ผีตายาย รวมไปถึงวิญญาณที่ครอบครองประจำท้องถิ่น เช่น ผีบ้านผีเรือน และแม้แต่ผีบ้านผีเมือง ซึ่งหมายความว่าใช้คำว่าผี หมายถึงวิญญาณทุกอย่างไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี

แต่ในเวลาต่อมา คำว่า "ผี" ในภาษาไทย ถูกศาสนาและวัฒนธรรมใหม่ของไทยที่เป็นศาสนาพราห์มและพุทธ กดให้ "ผี" กลายเป็นความหมายในเชิงลบเพียงอย่างเดียว คือหมายถึงวิญญาณคนตายที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิด ผีเปรต ผีปีศาจ เป็นต้น ซึ่งทำให้คำว่าผีหมายถึงวิญญาณที่ด้อยหรือชั่วร้ายเพียงอย่างเดียว ในขณะที่วิญญาณอื่นที่ดีก็จะถูกเรียกว่าเทพ เทพี เทพนารี เทวดา นางฟ้า เจ้า หรือแม้แต่พระเจ้า เป็นต้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาที่ใครใช้คำว่า "ศาสนาผี" ในยุคปัจจุบัน ก็เลยมีความหมายในลบ ต่ำต้อย ชั่วร้าย และในเชิงดูถูกเหยียดหยามไปเสียหมด



ที่จริงแล้ว "ผี" ในความหมายดั้งเดิมก็มีความหมายรวมถึง "เทพ" หรือ "เทพเจ้า" ด้วยนั่นและ เช่น "ผีฟ้า" ก็คือวิญญาณเทพเจ้าแห่งท้องฟ้า "ผีดิน" คือวิญญาณที่ครอบครองพื้นดินต้นไม้ป่าเขา

ในวงวิชาการศาสนวิทยาทางตะวันตก มักไม่ใช้ คำว่า "ศาสนาผี" (พูดจริงๆนะเรื่องนี้) ไม่มีหรอกที่จะใช้คำว่า "ghost religion" คำไทยที่เรียกว่าศาสนาผี นั้น แต่จะใช้คำเรียกอื่นคือ animism ซึ่งหมายถึง "วิญญาณนิยม"

แต่ที่นิยมมากกว่าคือเรียกเป็นยุคหรือระดับพัฒนาการของศาสนา คือ "primitive religion" ซึ่งอาจแปลว่า "ศาสนายุคบรรพกาล" "ศาสนาปฐมภูมิ" ที่ใช้คำเรียกเช่นนี้ก็เพราะว่า ศาสนาแนวนี้เป็นศาสนาขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทั้งโลกล้วนแต่เริ่มต้นจากศาสนาแนวนี้ก่อนทั้งนั้น ก่อนที่จะพัฒนาแนวคิดต่อไปยังศาสนารูปแบบอื่นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

        

...วันนี้ผู้เขียนขอเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมให้แก่ "ผี" หน่อยเถิด อย่ามาดูถูก "ผี" กันนักเลย...ผีขอร้อง



ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์



(วันหลังจะพูดเรื่อง "ศาสนาผี" ของแท้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น