41. Apostolic pardons are to be preached with caution, lest the people may falsely think them preferable to other good works of love. 41. ใบไถ่บาปที่อ้างอำนาจสืบจากอัครสาวก(ของพระสันตะปาปา)นั้นถูกเทศน์สอนพร้อม คำเตือนอย่างผิดๆว่าใบไถ่บาปนั้นประเสริฐกว่า “กิจการความรัก”ใดๆ
42. Christians are to be taught that the pope does not intend the buying of pardons to be compared in any way to works of mercy. คริสตชนควรได้รับการสอนว่า พระสันตะปาปาไม่ประสงค์ให้ตีค่าการซื้อใบไถ่บาปเสมอกับกิจเมตตาใดๆ
43. Christians are to be taught that he who gives to the poor or lends to the needy does a better work than buying pardons; 43. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าการบริจาคแก่ผู้ยากจนและให้ยืมสิ่งจำเป็นแก่ผู้ อื่นนั้นประเสริฐกว่าการซื้อใบไถ่บาป
44. Because love grows by works of love, and man becomes better; but by pardons man does not grow better, only more free from penalty. 44. เพราะความรักจะเจริญได้ก็ด้วย“กิจการความรัก”ซึ่งทำให้มนุษย์เจริญขึ้นด้วย แต่ใบไถ่บาปไม่ได้ทำให้มนุษย์เจริญขึ้นเพียงแต่ทำให้เป็นอิสระจากการใช้โทษ บาป
45. Christians are to be taught that he who sees a man in need, and passes him by, and gives [his money] for pardons, purchases not the indulgences of the pope, but the indignation of God. 45. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าหากเขาไปซื้อใบไถ่บาปโดยละเลยผู้ที่ต้องการความ ช่วยเหลือที่อยู่ต่อหน้า เขาไม่ได้กำลังซื้อใบไถ่บาปของพระสันตะปาปาแต่เป็นพระพิโรธของพระเจ้า
46. Christians are to be taught that unless they have more than they need, they are bound to keep back what is necessary for their own families, and by no means to squander it on pardons. 46. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าหากเขาได้รับสิ่งใดเกินความจำเป็นควรเก็บไว้ สำหรับครอบครัว มิใช่นำมาฟุ่มเฟือยกับใบไถ่บาป
47. Christians are to be taught that the buying of pardons is a matter of free will, and not of commandment. 47. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าใบไถ่บาปคือหนึ่งในกิจศรัทธาที่กระทำตามความสมัคร ใจมิใช่บทบัญญัติบังคับ
48. Christians are to be taught that the pope, in granting pardons, needs, and therefore desires, their devout prayer for him more than the money they bring. 48. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าพระสันตะปาปาผู้อนุมัติใบไถ่บาปทรงประสงค์คำภาวนา ที่จริงใจมากกว่าเงินถวาย
49. Christians are to be taught that the pope's pardons are useful, if they do not put their trust in them; but altogether harmful, if through them they lose their fear of God. 49. คริสตชนควรได้รับการสอนว่า ใบไถ่บาปจะมีอำนาจก็ต่อเมื่อเราไม่ไว้ใจในตัวใบไถ่บาปซึ่งจะส่งผลร้ายหากใบ ไถ่บาปทำให้เราสูญเสีย ความยำเกรงพระเจ้า
50. Christians are to be taught that if the pope knew the exactions of the pardon-preachers, he would rather that St. Peter's church should go to ashes, than that it should be built up with the skin, flesh and bones of his sheep. 50. คริสตชนควรได้รับการสอนว่าหากพระสันตะปาปาทราบถึงการละโมบของผู้เทศน์สอน เรื่องใบไถ่บาป พระองค์จะทรงยินยอมให้มหาวิหารนักบุญเปโตรเป็นผุยผงมากกว่าที่จะปล่อยให้มหา วิหารนั้นถูกสร้างบนเนื้อหนังและกระดูกของฝูงแกะของพระองค์
51. Christians are to be taught that it would be the pope's wish, as it is his duty, to give of his own money to very many of those from whom certain hawkers of pardons cajole money, even though the church of St. Peter might have to be sold. 51.คริสตชนควร ได้รับการสอนว่า โดยตำแหน่ง พระสันตะปาปาควรมีพระประสงค์คืนเงินแก่ผู้ถูกโน้มน้าวให้ซื้อใบไถ่บาปซึ่งมี จำนวน “มากมาย” แม้ว่านั่นจะหมายถึง การขายมหาวิหารนักบุญเปโตรก็ตาม
52. The assurance of salvation by letters of pardon is vain, even though the commissary, nay, even though the pope himself, were to stake his soul upon it. 52. คำในใบไถ่บาปนั้นไม่อาจให้ความเชื่อมั่นในความรอดได้เลย อย่างไรก็ตามคณะสงฆ์แม้แต่พระสันตะปาปาเองก็นำวิญญาณของตนมายึดติดกับมัน
53. They are enemies of Christ and of the pope, who bid the Word of God be altogether silent in some Churches, in order that pardons may be preached in others. 53. เขาเหล่านี้ถือว่าตั้งตนเป็นศัตรูกับพระคริสตเจ้าโดยการบิดเบือนพระวจนะของ พระเจ้าซึ่งรวมไปถึงแม้แต่ผู้ที่เงียบเฉยในในเขตวัดของตนปล่อยให้ผู้อื่นมา เทศน์สอนเรื่องใบไถ่บาป
54. Injury is done the Word of God when, in the same sermon, an equal or a longer time is spent on pardons than on this Word. 54. พระวจนะของพระเจ้าถูกสบประมาทโดยการเทศน์เรื่องใบไถ่บาปใช้เวลาเท่ากับหรือ มากกว่าการเทศน์สอนพระวจนะ
55. It must be the intention of the pope that if pardons, which are a very small thing, are celebrated with one bell, with single processions and ceremonies, then the Gospel, which is the very greatest thing, should be preached with a hundred bells, a hundred processions, a hundred ceremonies. 55. หากใบไถ่บาปซึ่งเป็นสิ่งที่แทบจะไม่มีค่าเลยได้รับการฉลองโดยการตีระฆัง หนึ่งครั้งพร้อมขบวนแห่และถวายพิธีโมทนาขอบพระคุณ พระสันตะปาปาก็ต้องประสงค์ที่จะให้ตีระฆังร้อยครั้งแห่ร้อยรอบและถวายพิธี โมทนาขอบพระคุณร้อยครั้งในช่วงบทอ่านพระวรสาร
56. The "treasures of the Church," out of which the pope. grants indulgences, are not sufficiently named or known among the people of Christ. 56. “สมบัติของพระศาสนจักร”ไม่รวมถึงเงินจากใบไถ่บาปที่พระสันตะปาปาทรงยินยอม เพราะมันได้มาจากกลุ่มคนที่ไม่อาจถูกเรียกได้ว่าเป็น“ประชากรของพระคริสต เจ้า”
57. That they are not temporal treasures is certainly evident, for many of the vendors do not pour out such treasures so easily, but only gather them. 57. จริงอยู่ว่าใบไถ่บาปไม่ใช่สมบัติชั่วคราวเพราะผู้ขายหลายคนก็เก็บเงินไว้กับ ตัวมิได้นำไปบริจาคให้ใคร
58. Nor are they the merits of Christ and the Saints, for even without the pope, these always work grace for the inner man, and the cross, death, and hell for the outward man. 58. ใบไถ่บาปไม่ได้มีพระคุณของพระคริสต์และนักบุญหรือแม้แต่ของพระสันตะปา ใบไถ่บาปให้ความรอดเฉพาะกับคนวงในและมอบกางเขน ความตาย และนรกให้กับคนวงนอก
59. St. Lawrence said that the treasures of the Church were the Church's poor, but he spoke according to the usage of the word in his own time. 59. นักบุญลอเรนซ์กล่าวว่า“สมบัติของพระศาสนจักรคือการถือความยากจน”ซึ่งก็ถือ เป็นคำนิยมพูดของคนสมัยนั้น
60. Without rashness we say that the keys of the Church, given by Christ's merit, are that treasure; 60. เราสามารถตอบอย่างไม่ลังเลได้เลยว่า นี่แหละคือกุญแจแห่งความรอดของพระศาสนจักรที่พระคริสตเจ้ามอบให้
61. For it is clear that for the remission of penalties and of reserved cases, the power of the pope is of itself sufficient. 61. เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเพียงพระอำนาจขององค์พระสันตะปาปาเองก็สามารถแก้ไข ผลจากการขายใบไถ่บาปได้อยู่
62. The true treasure of the Church is the Most Holy Gospel of the glory and the grace of God. 62. สมบัติที่แท้จริงของพระศาสนจักรก็คือพระวรสารแห่งพระสิริรุ่งโรจน์และพระคุณ ของพระเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุด
63. But this treasure is naturally most odious, for it makes the first to be last. 63. แต่สมบัติชิ้นนี้(คือใบไถ่บาป)เป็นที่น่ารังเกียจที่สุดเพราะได้กระทำให้คน กลุ่มแรกกลับกลายเป็นคนกลุ่มสุดท้าย(มธ20:16)
64. On the other hand, the treasure of indulgences is naturally most acceptable, for it makes the last to be first. 64. ตรงกันข้าม ใบไถ่บาปนี้ก็น่าเชื่อถือที่สุดเพราะได้กระทำให้คนกลุ่มสุดท้ายกลับกลายเป็น คนกลุ่มแรก
65. Therefore the treasures of the Gospel are nets with which they formerly were wont to fish for men of riches. 65. ดังนั้นก็พอจะเปรียบเทียบได้ว่าพระวรสารเป็นแหสำหรับชาวประมงผู้เคยแสวงหา ความร่ำรวย
66. The treasures of the indulgences are nets with which they now fish for the riches of men. 66. ใบไถ่บาปเป็นแหสำหรับผู้แสวงหาความร่ำรวย
67. The indulgences which the preachers cry as the "greatest graces" are known to be truly such, in so far as they promote gain. 67. การที่นักเทศน์พร่ำประกาศว่าใบไถ่บาปเป็น“พระคุณสูงสุด”แท้จริงก็คือการ โฆษณารักษาผลกำไร
68. Yet they are in truth the very smallest graces compared with the grace of God and the piety of the Cross. 68. ใบไถ่บาปนั้นถือว่าด้อยค่าเมื่อเทียบกับพระคุณของพระเจ้าและความศรัทธาในไม้ กางเขน
69. Bishops and curates are bound to admit the commissaries of apostolic pardons, with all reverence. 69. พระสังฆราชและนายจารีตต้องจำยอมต่อคณะสงฆ์ที่ขายใบไถ่บาปด้วยความเคารพต่อ อำนาจสืบจากอัครสาวกของพระสันตะปาปา
70. But still more are they bound to strain all their eyes and attend with all their ears, lest these men preach their own dreams instead of the commission of the pope. 70. แต่ท่านก็ต้องคอยจับตามองและเงี่ยหูฟังอย่างใกล้ชิดเพื่อมิให้มีสงฆ์คนใดนำ ความต้องการส่วนตัวมาแทนที่พระประสงค์ของพระสันตะปาปา
71. He who speaks against the truth of apostolic pardons, let him be anathema and accursed! 71. ผู้ที่ปกปิดความจริงเกี่ยวกับใบไถ่บาปสมควรถูกสาปแช่ง
72. But he who guards against the lust and license of the pardon-preachers, let him be blessed! 72. แต่ผู้ต่อต้านความโลภและอำนาจของของผู้เทศน์สอนเรื่องใบไถ่บาปก็สมควรได้รับ พร
73. The pope justly thunders against those who, by any art, contrive the injury of the traffic in pardons. 73. พระสันตะปาปาทรงลงโทษผู้ฉ้อโกงใบไถ่บาปอย่างยุติธรรม
74. But much more does he intend to thunder against those who use the pretext of pardons to contrive the injury of holy love and truth. 74. แต่พระองค์ทรงสมควรที่จะลงโทษผู้นำใบไถ่บาปมาเป็นข้ออ้างบิดเบือนความรักและ ความจริงของพระเจ้ายิ่งกว่า]
75. To think the papal pardons so great that they could absolve a man even if he had committed an impossible sin and violated the Mother of God -- this is madness. 75. เป็นความบ้าคลั่งที่จะคิดว่าใบไถ่บาปของพระสันตะปาปาสามารถไถ่ได้แม้แต่บาป ที่ให้อภัยไมได้ เช่นการล่วงเกินมารดาพระเจ้า
76. We say, on the contrary, that the papal pardons are not able to remove the very least of venial sins, so far as its guilt is concerned. 76. อันที่จริงแล้วตรงกันข้าม ใบไถ่บาปไม่สามารถไถ่ได้แม้แต่บาปเบาหากว่าผลของบาปนั้นดำรงอยู่
77. It is said that even St. Peter, if he were now Pope, could not bestow greater graces; this is blasphemy against St. Peter and against the pope. 77. การกล่าวว่าหากนักบุญเปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันก็ไม่อาจประทานพระ คุณมากกว่านี้ได้ ถือเป็นการทุราจารย์นักบุญเปโตรและพระสันตะปาปา
78. We say, on the contrary, that even the present pope, and any pope at all, has greater graces at his disposal; to wit, the Gospel, powers, gifts of healing, etc., as it is written in I. Corinthians xii. 78. ไม่ว่าพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันหรือองค์ใดก็ตามก็มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่กว่า โดยหน้าที่ได้แก่ ความรอบรู้ การประกาศพระวรสาร พระอำนาจ พระพรการรักษาฯลฯตามที่มีเขียนไว้ใน1โครินธ์บทที่12
79. To say that the cross, emblazoned with the papal arms, which is set up [by the preachers of indulgences], is of equal worth with the Cross of Christ, is blasphemy. 79. การกล่าวว่ากางเขนที่ประดับไหล่พระสันตะปาปามีค่าเสมอกับกางเขนของพระ คริสต์(ซึ่งกล่าวโดยบรรดาผู้เทศน์สอนเรื่องใบไถ่บาป)ก็ถือเป็นการทุราจารย์
80. The bishops, curates and theologians who allow such talk to be spread among the people, will have an account to render. 80. บรรดาพระสังฆราช นายจารีต และนักเทววิทยาที่ปล่อยให้มีการกล่าวในหมู่ประชาชนเช่นนี้จะต้องมีคำอธิบาย สำหรับเหตุการณ์นี้
|
ข้อมูลแน่นมากครับ สุดยอดครับ
ตอบลบข้อมูลแน่นมากครับ สุดยอดครับ
ตอบลบ