วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เมื่อความเชื่อ ความศรัทธา ถูกสั่นคลอนในโลกภาพยนตร์

เมื่อความเชื่อ ความศรัทธา ถูกสั่นคลอนในโลกภาพยนตร์

     The  Man From Earth คือภาพยนตร์ที่เรากำลังจะพูดถึง ซึ่งความแยบคายในการถ่ายทอดเรื่องราวของภาพยนตร์จากปี 2009 เรื่องนี้ เป็นที่พูดถึงมากทีเดียวสำหรับคอหนังนอกกระแส โดยเรื่องนี้ใช้การถ่ายทำเพียงแค่ในห้องนั่งเล่น และมีออกมาที่หน้าบ้านในบางครั้ง รวมแล้วมีแค่ 2 ที่เท่านั้น

     เรื่องราวของ The Man From Earth เริ่มจากจอห์น โอลด์แมน ชายผู้หนึ่งกำลังจะขนของย้ายถิ่นอาศัย หลังจากที่เขาอยู่ในที่แห่งนี้มานานราว 10 ปี ซึ่งก็มีเพื่อน ๆ 6-7 คน เข้ามาเยี่ยมเยียนที่บ้านเพื่อจะกล่าวคำลา แน่นอนว่าเมื่อมีคนเข้ามารวมกันแบบนี้ ก็ต้องมีเรื่องให้สนทนากัน แม้ว่าแต่ละคนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แขนงต่าง ๆ อย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์ นักจิตวิทยา ผู้เชี่ยวชาญในศาสนา แต่บทสนทนาที่เปิดขึ้นมาจากปากของจอห์นว่า เขามีชีวิตอยู่มานานกว่า 10,000 ปีแล้ว ทำให้ทุกคนรู้สึกฉงนขึ้นมาในทันที ทำไมจอห์นเลือกที่จะพูดเรื่องนี้

     ในช่วงแรกดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยสัพเพเหระ ไม่มีใครจริงจังกับประเด็นนี้นัก ไม่มีใครเล่น <a href=“https://scr888.gclub-casino.com/">918kiss</a> ทุกคนผลัดกันวนถามคำถามแก่จอห์น ซึ่งจอห์นเองก็ตอบไปเรื่อย ๆ ในแบบที่ไม่มีใครสามารถหักล้างคำตอบนั้นได้เลย เขาเล่าตั้งแต่สมัยที่ยังคงเป็นมนุษย์ถ้ำอยู่ในดินแดนที่เชื่อว่าเป็นทวีปยุโรปในปัจจุบัน เร่ร่อนหลบภัยหนาวไปทางตะวันออกเรื่อย ๆ ผลัดเปลี่ยนถิ่นฐานอยู่ตลอดทุกทศวรรษ จนกระทั่งล่วงเข้ามายังดินแดนในแถบทวีปเอเชีย ผ่านตะวันออกกลาง และเข้ามาถึงอินเดีย ซึ่งที่นั่น จอห์นเล่าว่าเขาได้พบกับพระพุทธเจ้า

     ผู้เป็นศาสดาแห่งศาสนาพุทธได้สอนหลายสิ่งให้แก่จอห์น ซึ่งตัวเขาได้นำเอาหลักคำสอนเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เขาร่วมเดินทางไปกับพระพุทธเจ้าอยู่พักหนึ่ง โดยที่พระองค์ท่านมิได้พูดถึงความพิเศษที่จอห์นมีอยู่ หลังจากนั้นจอห์นก็ได้จากลาแดนชมพูทวีป แล้วเดินทางย้อนกลับไปทางตะวันตก เขาเล่าว่าได้เผยแพร่ถึงคำสอนจากพระพุทธเจ้าที่ตัวเขาเองเลือกหยิบบางข้อมาใช้ และบางข้อก็ได้ประยุกต์แล้ว เขาเผยแพร่คำสอนผู้คนมาตลอดทาง โดยที่เขาค่อย ๆ ย้ายถิ่นที่อยู่ไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งเขาได้เดินทางกลับมายังแผ่นดินยุโรปอีกครั้ง และดูเหมือนว่าจะมีผู้คนบางกลุ่มที่ไม่พอใจ ส่งผลให้เขาถูกตรึงกางเขน

     ถึงตอนนี้หลายคนคงพอจะฉุกคิดขึ้นมาแล้วว่าจอห์นเป็นใคร ใช่คนที่คิดไว้หรือเปล่า เพื่อน ๆ ของจอห์นที่นั่งล้อมวงฟังกันก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นกัน มีการถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น อย่างรอยแผลการตอกตะปูตรึงกางเขน แต่จอห์นตอบว่าเป็นแค่เชือกมัด แต่มีการนำไปแต่งเติมในภายหลังให้ดูขลังขึ้น มีการถามถึงการเทศนาบนภูเขาลูกหนึ่ง ซึ่งจอห์นก็ตอบไปตามตรง

     และเมื่อเล่าถึงตอนนี้มันไม่มีอะไรปกติแล้ว เพราะถ้าความจริงคือพระเจ้าเป็นปุถุชนธรรมดา ไม่ใช่ผู้วิเศษ หลาย ๆ สิ่งถูกเติมแต่งให้เหนือจริง เมื่อเป็นเช่นนั้น ความเชื่อ ความศรัทธาที่ตัวเรามีต่อองค์ศาสดาและคำสอนในศาสนา ยังคงเป็นเช่นเดิมอยู่หรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ The Man From Earth ทำให้เรารู้สึกถึงความชอบกลในเรื่องราว และทำให้ความเชื่อของเราที่เคยมีสั่นคลอน

อย่างน้อยก็หลายวันทีเดียวหลังจากที่ผ่านจุดสิ้นสุดของภาพยนตร์

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2561 เวลา 10:24

    ศาสนาเป็นแค่ความเชื่อ ความเชื่อจึงเป็นแค่เรื่องไร้สาระ เพราะความเชื่อไม่ใช่ความจริง แต่คนที่ได้รู้จักพบเจอกับความจริง เขาไม่จำเป็นต้องใช้ความเชื่อ หรือมีความเชื่อ แต่เขารู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่เขาได้รู้จักพบเจอคือความจริง คนแบบนี้จะไม่มีอะไรมาสั่นคลอนเขาได้เลย เพราะเขาได้เห็นกับตา ได้ยินกับหู ได้พินิจดู เขาจึงเป็นพยานให้กับกับความจริง เช่น โมเสส หนึ่งในบรรพบุรุษของชนชาติอิสราเอล ผู้แรกที่ทำให้ชาวฮีบรู(เป็นชื่อของEberเหลนของเชม)ลูกหลานอับราฮัม เป็นที่รู้จักในฐานะชนชาติ และเป็นประเทศในเวลาต่อมา และปัจจุบันนี้ชนชาติโบราณนี้ก็คงอยู่เป็นชนชาติหนึ่งท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
    คนอิสราเอลเขาไม่ได้นับถือศาสนา แต่เขาเคารพนับถือบรรพบุรุษ รากเหงาของเขาที่เป็นพยานให้กับความจริงที่ว่า บรรพบุรุษของพวกเขามากมายได้พูดคุย ได้รับการช่วยกู้จากผู้สร้างโลกและจักรวาล ที่แม้แต่กษัตริษย์ดาวิดและโซโลมอลก็ยังคงเป็นพยานให้กับผู้สร้างโลกและจักรวาลที่ปรากฏต่อพวกเขา

    ตอบลบ