จากข้อมูลเร็วๆ นี้ได้บ่งชี้ถึงสถานการณ์ของศาสนาคริสต์ว่ายังคงมีความมั่นคงอยู่ จำนวนผู้นับถือศาสนาคริสต์มีสัดส่วน 34% ของทั้งโลก จึงยังคงเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดในโลก
ในพื้นที่ของอเมริกาเหนือกล่าวได้ว่าคริสเตียนยังคงมีความมั่นคงมาก ผู้ใหญ่ 3 ใน 4 คนเรียกตัวเองว่าเป็นคริสเตียน อันดับรองลงมาคือผู้นับถืออิสลาม และศาสนายิว ซึ่งมีประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์
แม้ว่าความศรัทธาใน ศาสนาจะเสื่อมลงในหลายประเทศ แต่ในสหรัฐยังคงมีความเข้มแข็งอยู่ ในสหรัฐ จำนวนผู้ที่ไปโบสถ์ยังมีสูงกว่าหลายประเทศในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
แม้ว่าความศรัทธาใน ศาสนาจะเสื่อมลงในหลายประเทศ แต่ในสหรัฐยังคงมีความเข้มแข็งอยู่ ในสหรัฐ จำนวนผู้ที่ไปโบสถ์ยังมีสูงกว่าหลายประเทศในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
53 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันถือว่าศาสนาเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตของตน ในขณะที่ชาวอังกฤษจะถือเช่นนี้เพียง 16 เปอร์เซ็นต์ ในฝรั่งเศส 14 เปอร์เซ็นต์ และในเยอรมัน 13 เปอร์เซ็นต์
แต่ถึงกระนั้น ก็มีสัณญานที่น่าสนใจบางอย่างที่บ่งชี้ว่าศาสนากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในสหรัฐและทั่วโลก
เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่บอกว่าตนเป็นคริสเตียนนั้นได้ลดลงจาก 86 เปอร์เซ็นต์ในปี 1990 ลดลงเหลือ 77 เปอร์เซ็นต์ในปี 2001 นี่เป็นการลดลงถึงเกือบปีละ 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่บอกว่าตนเป็นคริสเตียนว่าเป็นคริสเตียน “โปรเตสแต๊นท์” ก็ลดลงต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในปี 2005
ความเชื่อมั่นในองค์กรทางศาสนาได้ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
มีการปรากฏว่า ในหมู่ชาวอเมริกันกำลังมีความสนใจในเรื่องของจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสนใจที่จะเข้าคริสตจักรเพิ่มขึ้น
คริสตจักรในคณะกระแสหลัก (Mainline หมายถึงคณะที่มีแนวความเชื่อในแบบ Liberal ที่ไม่เคร่งครัดในการตีความพระคัมภีร์ตามตัวอักษร) ได้สูญเสียสมาชิกต่อเนื่องมาเป็นทศวรรษ ในขณะที่คณะที่มีความเชื่อแนวอนุรักษ์กลับกำลังเติบโตขึ้น
หากเป็นไปตามอัตราการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน อิสลามจะกลายมาเป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดของโลกก่อนปี 2005
และหากเป็นไปตามอัตราการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะถือว่าตนเองเป็นคนไม่มีศาสนา หรือไม่ใช่คริสเตียน ภายในปี 2035
จำนวนคนที่ไม่เข้าคริสตจักรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสหรัฐ ในขณะที่คนที่ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความ สนใจในขบวนการทางศาสนาแบบใหม่ หรือกระแสทางศาสนาแบบใหม่ (เช่น กลุ่มนิวเอจ หรือนอกรีตใหม่ หรืออื่นๆ) กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่ม “วิคคา” (Wicca) ซึ่งเป็นกลุ่มพ่อมดแม่มดในยุคใหม่ ได้เพิ่มจำนวนเป็นเท่าตัวในทุก ๆ 30 เดือน
อิทธิพลของคริสตจักรแบบที่เน้นการรวมศูนย์และเน้นรายการกำลังอ่อนกำลังลง ในขณะที่คริสตจักรแนวเซลล์ (คริสตจักรเซลล์) กำลังถูกก่อตั้งเพิ่มมากขึ้น
คริสเตียนจำนวนมากออกจากคริสตจักรเดิมของตน และก่อตั้งคริสตจักรตามบ้าน (“คริสตจักรบ้าน” หรือ house church) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มประชุมขนาดเล็กตามบ้านของกันและกัน
น่าสนใจมาก อยากให้มีบทความอย่างนี้อีกเรื่อยๆ ครับ
ตอบลบคริสต์-มุสลิม เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนา http://tobebuddhist.blogspot.com
ตอบลบน้อยคับบอกเลย
ลบ