วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สถาบันกษัตริย์ทั่วโลกในยุคปัจจุบัน

มีคนขอให้อธิบายว่า ประชาชนควรเข้าใจเรื่องสถาบันกษัตริย์อย่างถูกต้องอย่างไร?  ผู้เขียนก็ขอสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายๆ โดยพูดถึงสถาบันกษัตริย์ทั่วโลกในยุคปัจจุบัน ดังนี้ 

การมีกษัตริย์ในโลกปัจจุบันคงเหลืออยู่ 26 ราชวงศ์หรือตระกูล แต่ปกครองใน 43 ประเทศ  ที่เป็นเช่นนี้เพราะกษัตริย์บางประเทศมีอำนาจเหนือหลายประเทศ คือกษัตริย์อังกฤษที่ถูกถือเป็นกษัตริย์ในทุกประเทศในเครือจักรภพอังกฤษด้วยโดยปริยาย  

ประเทศที่ยังมีกษัตริย์

กษัตริย์ที่ว่านี้ถูกเรียกในหลายชื่อ เช่น กษัตริย์ หรือราชินี  พระราชาธิบดี  สุลตาน   หรือแม้แต่พระสันตปาปา   

ประเทศที่มีกษัตริย์เหล่านี้ไม่ได้มีระบอบการปกครองเหมือนกัน และบทบาทการเป็นกษัตริย์ก็ไม่เหมือนกัน แบ่งได้เป็น 4 แบบ ได้แก่ 

1. กษัตริย์แบบสมบูรณาญาสิทธิราช  เช่นซาอุดีอาระเบีย บรูไน และประเทศอิสลาม ประเทศเหล่านี้กษัตริย์เป็นผู้บริหารโดยตรง หรือบางทีตวบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย   (นอกจากนี้อาจถือรวมกรณีของสมเด็จพระสันตปาปาแห่งรัฐวาติกันด้วย แต่มีเงื่อนไขพิเศษ)

2. กษัตริย์แบบที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ  เช่น อังกฤษ ไทย กษัตริย์แบบนี้ไม่มีอำนาจบริหารโดยตรง แต่ยังมีอำนาจบางส่วน เช่นการอนุมัติหรือยับยั้งกฎหมายที่สภาฯเสนอมา  (อย่างไรก็ตามก็มีการวิจารณ์ว่ากรณีของไทยมีลักษณะแฝงแบบแรก)  

3. กษัตริย์แบบสัญลักษณ์และพิธีการ เช่น กษัตริย์ในประเทศยุโรป ไม่มีอำนาจในการบริหารเลย เป็นเพียงสัญลักษณ์ของชาติและเป็นประธานในการทำพิธีต่างๆ ทางสังคมเท่านั้น 

4. กษัตริย์แบบเครือจักรภพ  คือ ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ อันได้แก่ อังกฤษ แคนาดา  ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอื่น ๆ  กษัตริย์แบบนี้ก็เป็นแบบที่อยู่ใต้รัฐธรรมนูญด้วย 

5. กษัตริย์แบบหมุนเวียนในสหพันธรัฐ  เช่น สุลตานแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย  เป็นการหมุนเวียนกันเป็นในหมู่รัฐต่างๆ ในประเทศ วาระคราวละ 5 ปี และอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

6. กษัตริย์ใต้อำนาจผู้นำเผด็จการ  เช่น กษัตริย์กัมพูชา 

เรื่องของสถาบันกษัตริย์ มีประเด็นที่มีการถกหรือโต้แย้งกันในแต่ละประเทศอยู่หลายประเด็น ขอแยกให้เห็นดังต่อไปนี้

1. ประเทศยังควรมีสถาบันกษัตริย์หรือไม่? หรือถ้าควรยังมีอยู่ สถาบันกษัตริย์ควรมีสิทธิอำนาจและบทบาทเพียงใด ทั้งในเชิงสัญลักษณ์และภาคปฎิบัติ?  และตรวจสอบได้อย่างไร? 

2. สถาบันกษัตริย์ควรมีทรัพย์สินและรายได้อย่างไร? มีการบริหารจัดการอย่างไร? ต้องเสียภาษีหรือไม่อย่างไร? ตรวจสอบได้อย่างไร?

3. สถาบันกษัตริย์ควรมีรูปแบบการปฏิสัมพันธ์กับประชาชนอย่างไร? การพูดกันการวางตัวต่อกันควรมีรูปแบบอย่างไร? การใช้คำราชาศัพท์และการแสดงความเคารพต่อกันที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร?  มีฐานะเป็นสมมติเทพหรือเป็นมนุษย์เท่ากัน?  

4. สถาบันกษัตริย์ควรมีการคัดเลือกผู้รับตำแหน่งอย่างไร การสืบทอดอย่างไร มีกฎระเบียบหรือเงื่อนไขคุณสมบัติที่ทำให้พ้นสภาพอย่างไร? 

5. สถาบันกษัตริย์ควรมีการจัดระเบียบแห่งสิทธิอำนาจและเกียรติศักดิ์ภายในราชวงศ์อย่างไร? จัดระดับชั้นอย่างไร?  ระดับชั้นอันนี้เกี่ยวพันกับสังคมอย่างไร?  สังคมต้องปฏิบัติต่อลำดับชั้นต่างๆ อย่างไร?  

6. สถาบันกษัตริย์ควรต้องเกี่ยวข้องกับศาสนาหรือไม่?  ต้องถูกบังคับให้นับถือศาสนาใดหรือไม่?  ต้องมีตำแหน่งเป็นผู้นำศาสนาหรือสนับสนุนศาสนาใดหรือไม่ อย่างไร?  

7. สถาบันกษัตริย์ควรมีกฎหมายคุ้มครองอย่างไร? มีกฎหมายห้ามหมิ่นประมาท แต่ถูกวิจารณ์ได้หรือไม่? 

ขอตอบแบบสรุปดังนี้


ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ 


1 ความคิดเห็น:

  1. Did you know there is a 12 word sentence you can tell your crush... that will induce deep feelings of love and impulsive appeal for you buried inside his chest?

    That's because deep inside these 12 words is a "secret signal" that fuels a man's instinct to love, cherish and guard you with all his heart...

    =====> 12 Words Will Fuel A Man's Love Impulse

    This instinct is so built-in to a man's mind that it will drive him to try harder than ever before to make your relationship as strong as it can be.

    Matter of fact, fueling this all-powerful instinct is absolutely important to having the best ever relationship with your man that the moment you send your man one of the "Secret Signals"...

    ...You'll immediately notice him expose his heart and soul for you in such a way he's never experienced before and he'll distinguish you as the only woman in the galaxy who has ever truly attracted him.

    ตอบลบ